วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

รางวัลออสการ์


รางวัลออสการ์ สาขา : ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม



The Artist บรรเลงฝัน บันดาลรัก

23 กุมภาพันธ์ 2555
ตลก,โรแมนติค,ดราม่า,มิวสิคอล
ไมเคิล ฮาซาวินิเซียส
ฌอง ดูจาร์แด็งส์, จอห์น กู๊ดแมน, เจมส์ ครอมเวลล์, เบธ แกรนท
ภาพยนตร์เต็งหนึ่งออสการ์ปีนี้ เล่าเรื่องในยุคของฮอลลีวู้ด ปี 1927 จอร์จ วาเลนติน คือดาราหนังเงียบชื่อดัง ที่ได้พบกับเป๊ปปี้ มิลเลอร์ หญิงสาวที่เป็นแฟนหนังของเขาในรอบสื่อมวลชนอย่างบังเอิญ ต่อมาเป๊ปปี้ได้รับการคัดเลือกจากจอร์จให้มาเป็นแดนเซอร์ในหนังใหม่ของเขา และทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียง แต่การมาของหนังเสียงทำให้อาชีพของจอร์จเริ่มลงดิ่ง สวนทางกับเป๊ปปี้ที่ฉายแววเจิดจรัสขึ้นทุกวัน และความรักอันยาวนานของทั้งสองก็ได้ถูกกาลเวลาและชื่อเสียงเป็นตัวทดสอบ

Moneyball เกมล้มยักษ์

26 มกราคม 2555 ดราม่า,กีฬา เบนเนท มิลเลอร์ แบรด พิตต์, โจนาห์ ฮิลล์, ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน
Moneyball สร้างจากชีวิตจริงของ บิลลี่ บีน (Billy Beane) อดีตนักเบสบอลของเมเจอร์ลีกเบสบอล ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทั่วไปของทีมเบสบอล “โอ๊กแลนด์ แอธเลติกส์” (Oakland Athletics) กับช่วงเวลาที่ เริ่มเกิดวิกฤติทางการเงินของทีม ไม่สามารถจัดหาทุนในการซื้อตัวผู้เล่นเก่ง ๆ มาร่วมทีม ทำให้ฟอร์มเริ่มตกลงเรื่อย ๆ จนผู้จัดการประจำทีมเลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มรายหนึ่งที่ค้นพบวิธี ใหม่ในการช่วยคัดเลือกผู้เล่นผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งผลที่ออกมา กลับได้ผลแบบดีเกินคาดมาก ๆ
——————————————————————————————————–
moneyball

The Descendants สวมหัวใจพ่อ ขอทุ่มรักอีกครั้ง

16 กุมภาพันธ์ 2555 ตลก,ดราม่า อเล็กซานเดอร์ เพนย์ จอร์จ คลูนี่ย์, อาร์มาร่า มิลเลอร์, เชลล์ลีน วู้ดเลย์, แมตต์ คอร์บอย
เรื่องราวการเดินทางที่คาดเดาไม่ได้ของครอบครัวอเมริกันที่ต้องเผชิญการตัดสินใจ ครั้งสำคัญ แมต คิง (จอร์จ คลูนี่ย์) คือสามีและพ่อของลูกสาวสองคนที่ต้องกลับไปสำรวจอดีตและตามหาเส้นทางอนาคตของ ตนเอง หลังจากภรรยาของเขาประสบอุบัติเหตุทางเรือที่ไวกิกิ เขาพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกสาวทั้งสองอย่างเก้อเขิน ซึ่งก็คือสก็อตตี้ (อมารา มิลเลอร์) วัย 10 ขวบจอมแก่แดด และอเล็กซานดรา (เชลลีน วู้ดลี่ย์) วัย 17 ปีจอมขบถ ขณะเดียวกันก็ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบากว่าจะขายที่ดินของครอบครัวดีหรือไม่ ซึ่งที่ดินที่ว่านี้ตกทอดมาจากราชวงศ์ฮาวายและมิชชันนารี และเป็นที่ดินริมชายหาดผืนสุดท้ายของเกาะที่ปราศจากมลทินและมีมูลค่ามหาศาล
เมื่อ อเล็กซานดราบอกว่าตอนที่เกิดอุบัติเหตุ แม่ของเธอกำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายอื่น แมตต้องหันกลับมาพิจารณาชีวิตของเขาใหม่ รวมทั้งทรัพย์สินทั้งหมดของเขาด้วย ในช่วงสัปดาห์แห่งการตัดสินใจ เขาออกเดินทางตามหาชู้รักของภรรยาอย่างไร้จุดหมายโดยกระเตงลูกสาวทั้งสองคน ไปด้วย ระหว่างทาง สิ่งที่เขาพบเจอมีทั้งปัญหา เรื่องตลก และเรื่องเหลือเชื่อ ที่ทำให้เขาได้สร้างชีวิตและครอบครัวใหม่อีกครั้ง

The Tree of Life

07 กรกฎาคม 2554 ดราม่า,แฟนตาซี เทอเรนซ์ มาลิค แบรด พิตต์, ฌอน เพนน์ rating thaimovie
The Tree of Life เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในทศวรรษที่ 1950 “แจ็ค” (รับบทโดย ฌอน เพนน์) ลูกชายคนโตของบ้าน เริ่มตั้งแต่ชีวิตในวัยเยาว์อันบริสุทธิ์ จนวันที่เป็นผู้ใหญ่ที่มุ่งขจัดอคติให้พ้นไปจากจิตใจ เขาปรารถนาจะปรับความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อ (รับบทโดย แบรด พิตต์) เพื่อค้นพบตัวตนในโลกปัจจุบัน เฝ้ามองหาเหตุผล และความหมายของชีวิต ขณะตั้งคำถามต่อการมีอยู่แห่งศรัทธา
————————————-
The Tree of Life
เทอเรนซ์ มาลิค (The Thin Red Line, The New World) ทิ้งช่วงงานกำกับหนังแต่ละเรื่องนานประมาณ 5 – 20 ปี แต่ด้วยสไตล์การกำกับที่เป็นเอกลักษณ์ และฝีมือการเขียนบทตื้นตันประทับใจ ที่ทำให้แฟนหนังติดตามผลงานกันอย่างเหนียวแน่นตลอดมา
สำหรับ The Tree of Life เทอเรนซ์กลับมากำกับหนังอีกครั้งหลังจากจบเรื่องก่อน (The New World) นาน 6 ปี มาพร้อมกับ 2 นักแสดงชายคุณภาพ อย่าง ฌอน เพนน์ และแบรด พิตต์ ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกชาย และตัวเรากับโลกใบนี้
The Tree of Life

Midnight In Paris คืนบ่มรักที่ปารีส

ดราม่า วู้ดดี้ อัลเลน โอเว่น วิลสัน, มาริยงค์ โกติยาร์ด, เรเชล เมคอดัมส์, ไมเคิล ชีน rating thaimovie
เอ็ม พิคเจอร์ส ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ส่งภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกเอาใจคอหนังรัก  ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของเจ้าพ่อหนังรักมือเก๋าอย่าง Woody Allen ในภาพยนตร์เรื่อง “Midnight in Paris หรือที่มีชื่อภาษาไทยว่า “คืนบ่มรักที่ปารีส”  ที่ขนเอานักแสดงแถวหน้ามาร่วมสร้างสีสัน นำโดย Owen Wilson จาก Shanghai Noon , Night at the museum ประกบคู่กับ Rachel McAdams จากภาพยนตร์เรื่อง Sherlock Holmes , Kethy Bates จาก P.S. I Love You ,  Marion CotillardจากInception และนักแสดงรับเชิญพิเศษ สตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศสและอดีตนางแบบชื่อดัง Carla Bruni มาโชว์ลวดลายการแสดงเป็นครั้งแรก ติดตามชมเรื่องราวความรัก ความฝัน และค่ำคืนอันแสนงดงามของ   มหานครแห่งมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของกรุงปารีส  และร่วมบ่มรักในคืนพิเศษกับคนพิเศษพร้อมกันวันที่ 22 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
————————————————————————————————

The Help คุณนายตัวดี สาวใช้ตัวดำ

10 พฤศจิกายน 2554 ดราม่า เธท เทเลอร์ เอมม่า สโตน, เจสสิกา เชสสแตน, แอนนา แคมป์ rating thaimovie
“The Help” ซึ่งมีเรื่องราวเกิดขึ้นในแจ็คสัน, มิสซิสซิปปี้ ระหว่างยุค 60s บอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงที่พิเศษสุดสามคน ผู้สานมิตรภาพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นให้เป็นไปได้ จากโปรเจ็กต์งานเขียนลับ ที่แหกกฎเกณฑ์สังคมและทำให้พวกเธอทุกคนต้องเสี่ยงอันตราย
ยูจีเนีย “สคีทเตอร์” ฟีแลน เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากโอล มิส และหมายมั่นปั้นมือที่จะหางานนักเขียนทำ สคีทเตอร์ แตกต่างจากเพื่อนสาวคนอื่นๆ ที่เธอเติบโตขึ้นมาด้วยกันในเมืองแจ็คสัน, มิสซิสซิปปี้ ตรงที่เธอใฝ่ฝันอยากทำงานและพอใจกับการเลื่อนเรื่องของการแต่งงาน มีครอบครัวออกไปก่อน ซึ่งนั่นก็นำมาซึ่งสายตาตำหนิติเตียนจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วและครอบครัวของเธอ เมื่อเธอได้รับงานเขียนคอลัมน์เคล็ดลับทำความสะอาดสำหรับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และได้รับความช่วยเหลือจากไอบิลีน สาวใช้ของเพื่อนรักเธอ สคีทเตอร์ก็พบว่าเธอเริ่มเดินหน้าเขียนงานลับๆ ภายใต้แรงกระตุ้นจากบรรณาธิการหนังสือในนิวยอร์กและได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวประทับใจที่เธอได้ค้นพบในที่สุด
ไอบิลีน คลาร์ค เป็นสาวใช้มาตลอดชีวิต เธอทำงานกับครอบครัวคนขาว ในแเมืองจ็คสัน, มิสซิสซิปปี้ เธอเลี้ยงดูเด็กๆ 17 คนให้กับนายจ้างและลูกชายหนึ่งคนของตัวเอง ผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุอย่างน่าเศร้าโดยไม่จำเป็น ไอบิลีนที่รู้สึกซึมเศร้าตั้งแต่สูญเสียลูกคนเดียวไป ได้รับความแข็งแกร่งจากทั้งศรัทธาของตัวเองและมินนี เพื่อนรักของเธอ
ด้วยความกล้าหาญเงียบๆ และความทรนง เธอได้ทำตามหน้าที่ของตัวเองในฐานะสาวใช้ของครอบครัวลีโฟลท์ และดูแลลูกสาวตัวน้อยของพวกเขา เมย์ ม็อบลีย์ เมื่อสคีทเตอร์ก้าวเข้ามาในชีวิตเธอ ไอบิลีนก็พบว่าตัวเองเปิดใจมากขึ้นและเล่าเรื่องราวของเธอออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต แม้ว่าการ
กระทำที่ดูเหมือนไม่สลักสำคัญนี้จะนำมาสู่ความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีก็ตาม
มินนี แจ็คสัน ผู้พูดในสิ่งที่คิดอย่างตรงไปตรงมา เป็นสาวใช้วัย 33 ปี ผู้โด่งดังในฐานะแม่ครัวมือหนึ่งในมิสซิสซิปปี้ เธอทำงานให้กับฮิลลี โฮลบรูค (ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด) แต่กิริยาท้าทายของเธอทำให้เธอถูกไล่ออกและเธอก็เดินทางไปยังย่านชานเมืองแจ็คสัน เพื่อทำงานให้กับเซเลีย ฟุ้ท (เจสสิก้า แชสเทน) มินนีเป็นเพื่อนรักของไอบิลีน และช่วยเธอให้ผ่านความทุกข์จากการสูญเสียลูกชายคนเดียวไปได้ แม้ว่ามินนี จะเป็นคนเข้มแข็งและเป็นตัวของตัวเอง แต่เธอก็เป็นคนที่ยึดติดกับเหตุผล และเป็นคนช่างระแวง โดยเฉพาะในโปรเจ็กต์ของสคีทเตอร์
ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่น่าทึ่งเกิดขึ้นจากสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพวกเธอ ปลูกฝังความกล้าหาญที่จะก้าวข้ามเส้นที่เป็นตัวกำหนดความเป็นตัวเองของพวกเธอ และการรับรู้ที่ว่าบางครั้ง เส้นเหล่านั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อก้าวข้ามไป แม้ว่ามันหมายถึงการนำทุกคนในเมืองให้เผชิญหน้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม
“The Help” ที่น่าประทับใจอย่างลึกซึ้ง เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ความหวังและเรื่องอบอุ่นหัวใจ เป็นเรื่องราวสากลที่เป็นอมตะ เกี่ยวกับความสามารถที่จะสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งสร้างแรงบันดาลใจและก่อให้เกิดพลัง ที่นำเสนอตัวละครที่กล้าหาญ ตลกและเข้าถึงได้ ผู้ซึ่งกลายเป็นฮีโรในชีวิตของพวกเขาเอง ด้วยการค้นพบเอกลักษณ์อันโดดเด่นของพวกเขาเอง
————————————————————————————
ผลงานจากดรีมเวิร์คส์ พิคเจอร์ส และรีไลแอนซ์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่วมกับพาร์ทิซิแพนท์ มีเดียและอิมาเจนเนชัน อาบู ดาบี ดรามาสร้างแรงบันดาลใจที่ดุเดือดเผ็ดร้อน “The Help” ภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สร้างขึ้นจากนิยายเรื่องแรกของแคธริน สต็อคเก็ตต์ นิยายเบสต์เซลเลอร์อันดับหนึ่งของนิวยอร์ก ไทม์ ร่วมแสดงโดยนักแสดงระดับแนวหน้า ซึ่งประกอบไปด้วยเจสสิก้า แชนเทน, นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด วิโอลา เดวิส, ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด, เจ้าของรางวัลเอ็มมี อวอร์ด อัลลิสัน แจนนีย์, คริส โลเวล, เจ้าของรางวัลออสการ์ ซิสซี สปาเซ็ค, ออคตาเวีย สเปนเซอร์, เอ็มมา สโตน, นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ซิซิลี ไทสันและไมค์ โวเกล
ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดยเท้ท เทย์เลอร์ โดยมีบรันสัน กรีน, คริส โคลัมบัสและไมเคิล บาร์นาธาน อำนวยการสร้าง ผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่ มาร์ค แร้ดคลิฟฟ์, เท้ท เทย์เลอร์, แอล. ดีน โจนส์ จูเนียร์, เนท เบอร์คัส, เจนนิเฟอร์ บลัม, จอห์น นอร์ริส, เจฟฟ์ สโคลและโมฮัมเหม็ด มูบารัค อัล มาซรูอี
——————————————–
the help

มาร์ติน สกอร์เซซี ร่วมกับ จอห์นนี่ เด็ปป์ สร้างหนัง HUGO เข้าชิง 11 รางวัลออสการ์ยอดเยี่ยม

HUGO 3D
สุดยอดภาพยนตร์ผจญภัยแฟนตาซี โดยผู้กำกับระดับครู มาร์ติน สกอร์เซซี จากหนังสือเบสท์เซลเลอร์ The invention of Hugo Cabret เป็นเรื่องของเด็กชายอูโก้ วัย 12 ปี ที่พ่อหายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อมกับทิ้งหุ่นกลปริศนา กับความลับของกุญแจรูปหัวใจที่สามารถปลุกชีวิตให้กับหุ่นกลนั้นได้
และล่าสุด หลังจากที่ได้รางวัลจากสถาบัน และ เวทีต่างๆมากมาย  HUGO ยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 11 รางวัล คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม , ผู้กำกับยอดเยี่ยม , บทดัดแปลง , กำกับศิลป์ , กำกับภาพ , ออกแบบเครื่องแต่งกาย , ตัดต่อยอดเยี่ยม , ดนตรีประกอบ , ตัดต่อเสียง , ผสมเสียง และ เทคนิคภาพยอดเยี่ยม
นำแสดงโดย เบน คิงสลีย์, อัสซ่า บัตเตอร์ฟิลด์ , โคลอี้ มอเรทซ์, จู๊ด ลอว์, ซาช่า บารอน โคเฮนและ เอมิลี่ มอร์ติเมอร์ ทีมผู้สร้างมีมาร์ติน สกอร์เซซี รับหน้าที่กำกับ และจอห์นนี่ เด็ปป์ เป็นโปรดิวเซอร์
hugo
hugo
hugo
hugo

Extremely Loud & Incredibly Close ปริศนารักจากพ่อ ไม่ไกลเกินใจเอื้อม

ดราม่า สตีเฟ่น ดัลดรี ทอม แฮงค์ส, แซนดร้า บูลล็อค, จอห์น กู้ดแมน, เจมส์ แกนดอลฟินี
เรื่องราวการเดินทางของเด็กชายนามว่า ออสการ์ สเคล วัย 11 ขวบ ที่พยายามค้นหาทางออกในการมีชีวิต หลังจากที่เขาต้องสูญเสียพ่อไปใน World Trade Center เหตุการณ์ 9/11 จุดเริ่มต้นของการเดินทางคือ กุญแจของพ่อที่ทิ้งเอาไว้ ซึ่งความลับทั้งหมดถูกซ่อนอยู่ในนครนิวยอร์ก หนูน้อยจึงออกผจญภัย เพื่อหาตู้ปริศนาที่กุญแจนี้จะไขได้ ซึ่งระหว่างการเดินทาง เขาต้องพบเจอผู้คนหลากหลายประเภท และต่างก็ช่วยไขสิ่งที่คาใจพวกเขาซึ่งกันและกัน จนได้ค้นพบว่าสิ่งที่สามารถปลอบประโลมมนุษย์เราได้คือ ความรัก

War Horse : มันคือ เซฟวิ่ง ไพร์เวท ไรอัน ผสมผสานกับ เดอะ เทอร์มินัล

อาจจะไม่ได้เป็นหนังที่เป็นตัวเก็งว่าจะได้กวาดรางวัลจากออสการ์ไปมากมาย แต่มันก็เป็นหนังดราม่าอีกเรื่องที่ได้รับคำกล่าวขวัญจากนักวิจารณ์ว่าเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องจาก สปีลเบิร์ก กับ War Horse ที่ในวันนี้นั้นหนังก็ได้เข้าฉายในไทยให้เราดูกันแล้ว ตัวหนังจะเป็นอย่างไรไปอ่านเลยครับ
เรื่องของความหวัง, ความภักดี, และความผูกพันที่ไม่อาจแยกจากกัน ที่เกิดขึ้นในชนบทของอังกฤษและยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 “War Horse ม้าศึกจารึกโลก” เริ่มต้นจากมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ระหว่างม้าตัวหนึ่ที่ชื่อ โจอี้ และเด็กหนุ่มชื่อ อัลเบิร์ต ผู้เลี้ยงและฝึกฝนมันมากับมือ เมื่อสถานะการณ์บีบบังคับให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน เราจะได้ติดตามการเดินทางอันน่าเหลือเชื่อของม้าตัวหนึ่งที่ต้องผ่านการทำสงคราม, เปลี่ยนแปลงและให้แรงบัลดาลใจกับหลากหลายชีวิตที่มันได้พบเจอทหารม้าชาวอังกฤษ, ทหารเยอรมัน, และชาวนาฝรั่งเศสกับหลานสาวของเขา ก่อนที่เรื่องราวจะทะยานสู่จุดสูงสุด
War Horse กำกับการแสดงโดยพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ดอย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่เราคงไม่ต้องอธิบายชื่อ หรือ ประวัติ ของเขาให้มากมาย เพราะคงรู้จักเขาดีอยู่แล้วว่าเขาคือหนึ่งในผู้กำกับที่เก่งที่สุดของ ฮอลลีวู้ด โดยในปี 2011 ก็ทำหนังออกมาให้เราดูถึง 2 เรื่องเลยทีเดียว (เรื่องแรกก็คือ The Adventures Of Tintin นั้นเอง) และหนังเรื่องนี้ก็คือหนังเรื่องที่ 2 ที่เขาทำออกมาในปีนี้ โดยถ้าให้เปรียบ War Horse กับผลงานเก่าๆของเขา ก็คงเปรียบได้ว่าเป็นหนังที่มีฉากรบสุดเข้มข้นเหมือน Saving Private Ryan แต่สามารถผสมผสานไปกับความประทับใจได้เหมือน The Terminal เพราะ War Horse นั้นถือว่าเป็นหนังดราม่าในรอบหลายปีของผู้กำกับ สปีลเบิร์ก ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างเพอร์เฟ็คในทุกด้าน ไล่ตั้งแต่โปรดักชั่น ดนตรี ฉาก และการถ่ายภาพ
เพราะหนังเต็มไปด้วยฉากสงครามที่พูดได้เต็มปากว่า สวยงาม และ อลังการ ผสมผสานไปกับการถ่ายภาพด้วยโทนสี และ แสงที่อยู่ในระดับที่สมควรได้ออสการ์จาก สาขาการถ่ายภาพ ก็ว่าได้ พร้อมกับการที่ผู้กำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก นั้นก็ได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นแล้วว่า เขายังถือว่าเป็นผู้กำกับมือต้นๆที่ยังสามารถทำฉากสงครามในหนังออกมาได้ยอดเยี่ยม และ อลังการที่สุด เพราะฉากสงครามใน War Horse นั้นผู้กำกับ สปีลเบิร์ก สามารถเนรมิตฉากเหล่านั้นออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบทั้งแอ็คชั่น และด้านฉากความหดหู่ โดยไม่ต้องพึ่งอาศัยฉากโหดๆ หรือฆ่ากันแบบเห็นเลือดเลยสักนิดเดียว
และที่เด็ดที่สุดคือด้านฉากสงครามเหล่านั้นผู้กำกับ สปีลเบิร์ก ยังสามารถแอบสอดแทรกความประทับใจลงไปในนั้นได้อย่างกลมกล่อม และ มีเสน่ห์ เรียกได้ว่าดูจบนั้นคนดูจะรู้สึกถึงความรักของ อัลเบิร์ต และ โจอี้ ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะตอนจบของหนัง ที่ถึงแม้หนังจะไม่พยายามดราม่าเรียกน้ำตามากมาย แต่ก็สามารถทำให้คนดูนั้นรู้สึกน้ำตาซึมไปกับความรักครั้งยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมทั้งยังต้องขอบคุณวิธีการเล่าเรื่องของ สปีลเบิร์ก ที่สามารถเนรมิตหนังความยาว 2 ชั่วโมง 26 นาที ทำให้คนดูรู้สึกเหมือน 1 ชั่วโมงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะว่ามนเสน่ห์ หรือว่า เวทมนตร์ ที่ไม่สามารถอธิบาย
สรุป War Horse ถือว่าเป็นหนังดราม่าอีกเรื่องจากผู้กำกับ สปีลเบิร์ก ที่สามารถทำให้คนดูรู้สึกประทับใจ และ อิ่มเอม ไปกับความรักของคนและม้าได้อย่างยอดเยี่ยม แถมในฉากสงครามนั้น สปีลเบิร์ก ก็ยังทำออกมาได้ไม่เสียเครดิตอีกด้วย ถ้าใครหาหนังดราม่าดีๆเรื่องนึงในอาทิตย์นี้ เรื่องนี้ก็ไม่ควรพลาดเลยครับ
ขอขอบคุณ www.moviemthai.com
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น