วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การสร้างการ์ตูน Animation


การสร้างร์ตู Animation  ^_____^

ขั้นตอนการสร้าง การ์ตูนเคลื่อนใหว(อนิเมชั่น)
บทความประมาณนี้ผมเองก็ได้เขียนไปหลายๆเวปบอร์ดเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่เขียนข้อมูลก็จะแน่นขึ้นเรื่อยๆเพราะงั้นครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขียน แต่ก็ดีกว่าที่เขียนก่อนหน้า. ทั้งนี้ขั้นตอนหลักๆทั้งหมดก็ใกล้เคียงกัน
อนิเมชั่นคือการนำถาพมาซ้อนกันให้เกินการเคลื่อนใหวขึ้น ส่วนกี่ภาพต่อ 1 วินาทีก็แล้วแต่สตูดิโอกำหนด. หลายๆคนชอบคิดว่าคนที่วาดการ์ตูนได้ก็น่าจะวาดภาพเคลื่อนใหวได้สิ อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิด คนที่วาดการ์ตูนไม่จำเป็นต้องวาดภาพเคลื่อนใหวได้ และในทางกลับกัน คนวาด ภาพเคลื่อนใหวก็ไม่จำเป็นต้องวาดการ์ตูนได้เช่นกัน, อยากให้เข้าใจกันใหม่ เหตุผลที่ทำให้เข้าใจผิดเพราะพื้นฐานนั้นเหมือนกัน คือการวาด.
ก่อนที่เราจะมาเริ่มการสร้าง อนิเมชั่น นั้น เราต้องมีการวางแผนก่อน ไม่ว่า เนื้อเรื่อง, เสียง, อุปกร์ณการวาด, โปรแกรม ที่ใช้งานในการตัดต่อ. ทำไมต้องวางแผน ต้องเตรียมการ? หากมีการเตรียมการ จะเป็นการสะดวกทำให้เรารู้ว่าจะทำอะไรต่อเป็นขั้นๆไป
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหนังหรืออนิเมชั่น ต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่า ไม่สามารถทำเสร็จในขั้นตอนเดียว โปรแกรมเดียว ต้องมีการนำมาผสมผสานกันด้วย.
1. IDEA - ความคิด แนวคิด
ขั้นตอนแรกในการทำเลยคือ คิด คิดว่าจะทำเรื่องอะไร ทำยังไง จบยังไง น่าสนใจยังไง ขนาดที่จะทำ ขั้นตอนนี้ยังไม่ต้องสนใจเทคนิกในการสร้าง เพียงแค่ระดมความคิดต่างๆเอามารวมกัน แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องเขียนทุกอย่าง เขียนแค่ตัว หลักๆ ใว้

2.1 STORY -
เนื้อเรื่องหลังจากได้แนวความคิดตอนนี้ก็มาเขียนเนื้อเรื่อง โดยเอาแนวคิดหลักๆมาขยายความ ในการเขียนเนื้อเรื่องตอนนี้ก็เหมือนกับเขียนนิยาย คิอไม่ใช่มีแต่เนื้อเรื่อง ต้องมีบทพูดด้วยเช่นกัน ไล่เป็นฉากๆ บทๆ ไป ขั้นตอนนี้ เอกสารจะเป็น แค่ ตัวอัก`ษรเท่านั้น. เพิ่มเติม บ.อนิเมชั่นที่ญี่ปุ่น การนำการ์ตูนเอามาทำอนิเมชั่นเค้าก็เขียนบทขึ้นมาใหม่อีกรอบโดยมี เนื้อเรื่องในการ์ตูนเป็นพื้นฐาน. พอได้เนื้อเรื่องก็จะนำเอามาให้ทีมงานอ่านกันเพื่อแก้ไข ไม่ว่าจะเป็น คำพูด เนื้อเรื่อง ว่าเหมาะสมกับกลุ่มมั้ย ไม่ใช่สักแต่ว่าเขียนไป.
2.2 STORY BOARD - สตอรี่บอร์ด

นำเนื้อเรื่องที่ทำการเรียบเรียง มาให้ทีมงานอ่านกัน เพื่อเอาไปเขียนสตอรี่บอร์ด, คนที่เขียนสตอรี่บอร์ดไม่จำเป็นต้องมีแค่คนเดียว แบ่งงานเป็น ฉากๆไป. ขั้นตอนนี้นั้น คือการนำเอาเนื้อเรื่องมาวาดเป็นภาพ มาเรียงต่อกันเป็นฉากๆ แล้วเอามาแปะใว้บนที่บอร์ด(ถึงเรียกว่า สตอรี่บอร์ด). แล้วเอามาเขียนมาแก้กันเพิ่มมุมมองฉากใหน แก้มุมใหน ขั้นตอนนี้จะสำคัญเพราะมีผลสืบเนื่องถึงขั้นตอน วาด อนิเมชั่น ถ้าทำไม่ดี จะเป็นปัญหาอย่างมาก.
3 AUDIO and SOUND - เสียง
เมื่อเอาสตอรี่บอร์ดมาเรียงกันเป็นหนังอย่างหยาบๆ (หรือที่คนเรียกกันอย่างหรูว่า อนิเม-ทริก ความละเอียดตรงนี้ขึ้นอยู่กับตอนวาดสตอรี่บอร์ดว่าละเอียดขนาดใหน)แล้วเอามาอัดเสียง ไม่ว่าจะเสียงพาค์ย เสียงเอฟเฟค เสียงฉากหลัง ทำให้หมด. มันจะเป็นการง่ายมาก หากเราทำเสียงแล้ว มาวาดให้ตรงกับเสียง มากกว่า ทำเสียงให้ตรงกับภาพ.




4. ANIMATE - วาดรูปเคลื่อนใหวเมื่อได้เสียงเราก็นำเสียงมาดูความยาว ตามช่วงเวลา เพื่อนำมาวาด. ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความ อดทน กับ ความมุ่งมั่น ในการทำเพราะเรื่องที่มีความยาว ครึ่งชั่วโมง ก็ต้องวาด 3000 รูปโดยประมาณ. ทั้งนี้ในการวาดในขั้นนี้ ต้องอาศัยการศึกษาและเทคนิกต่างๆ ไม่ว่าจะตัดเส้น ลงสี หรือ การเคลื่อใหวของสถานที่และตัวละคร.

5. EDIT -
แก้ไขหลังจากวาดอนิเมชั่นแล้ว ตัวหนังยังแยกกันเป็นส่วนๆ ในขั้นตอนนี้จะนำมาต่อรวมกัน เพื่อเป็นหนังใหญ่. แล้วต้องนำมาดูกันเพื่อ พิจารณาว่า ทั้งเนื้อเรื่องดูลงตัวมั้ย ต้อง ตัดฉากใหนออก. ในขั้นตอนนี้มีหนังอนิเมชั่นไม่น้อย ที่ต้องตัดออกไป 3-4 ฉาก เพื่อความลงตัว ให้เหมาะสม.
6. FINAL OUTPUT - การผลิดขั้นสุดท้าย
เมื่อ หนัง ทั้งเรื่อง เสร็จเป็นอันที่เรียบร้อยแล้วนั้น ก็สู่การนำไปแสดงหรือเผยแพร่. ตรงนี้ขึ้นอยู่กับผู้จัดทำว่าจะเอาไปทำอะไร(ที่คิดใว้ในขั้นตอนที่ 1 แนวคิด) ส่วนมากคือการนำงานไปเสนอตาม บ. ต่างๆเพื่อ นำไป เผยแพร่ หรือ นำไปผลิต ก็ตามแต่ นโยบายของผู้จัดทำ.

เพิ่มเติม
ความละอียด และ ขนาด นั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพราะการนำไปใช้เพื่อทำอะไรนั้น ขนาดจะไม่เท่ากัน อย่าง ฉายในจอเงิน จอแก้ว ในเวป หรือ แม้แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์.
ขั้นตอนทั้งหมดนี้อาจจะไม่สำคัญถึงขนาดคอขาดบาดตาย แต่ว่า ขั้นตอนทั้งหมดนั้นจะช่วยในการ ทำงานให้เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่า เกือบครึ่งนึงของเวลาทั้งหมด เลยทีเดีย


ตัวอย่างการ์ตูน Animation
ขอบคุณ   http://www.keereerat.ac.th

ท่าเต้นที่ฮิตที่สุดในตอนนี้

ท่าเต้นที่ฮิตที่สุดในตอนนี้ :))

gangnam style กังนัม สไตล์ แปลว่าอะไร อาจจะงงๆ กันอยู่ แต่คงต้องยอมรับว่า ตอนนี้ เพลงเกาหลีแนวแดนซ์ เพลงหนึ่ง กำลังดัง ฮอตฮิตอยู่ตามคลื่นวิทยุ อยู่ในขณะนี้ 

จังหวะแสนเร่งเร้า จนเราต้องตามไปหาใน youtube ดูกัน

ตอนแรกก็เห็นเพื่อนโพสต์เอาไว้ใน facebook เป็นภาพการ์ตูน พร้อมคำแปลกๆ ว่า Gangnam Style หรืออ่านแบบไทยๆ ได้ว่า กังนัม สไตล์

เมื่อค้นหาดูได้ใน youtube เราก็ได้พบกับเจ้าของเสียงร้อง ที่ look ของเขาอาจจะต่างไปจากวงบอยแบนด์ ในกระแส ไม่ได้หล่อ ไม่ได้เพรียว แต่มาพร้อมกับคุณสมบัติ เอวหนา คอสั้นประมาณผู้ใหญ่ลี

เขาออกมาร้องเพลง พร้อมกับลีลาการเต้นอันน่าทึ่ง ที่เห็นแล้วต้องฮา ซึ่งแน่นอนว่าใครเห็นได้แค่ครั้งเดียว ก็จำได้ติดตาอย่างแน่นอน

ท่าเต้นที่เราเห็นในเพลงนี้ มีชื่อเรียกว่า ฮอร์สแดนซ์ หรือ ท่าเต้นเลียนแบบม้า (มิน่าล่ะ ถึงเปิดตัวกันในคอกม้า)  ใครเปิดเพลงนี้มา เป็นต้องเปิดแล้วดูจนจบอย่างแน่นอน เพราะอยากจะรู้ว่า จุดจบของความฮานั้นอยู่ตรงไหน
  Psy หรือปาร์คแจซัง ศิลปินวัย 34 ผู้มีงานเพลงมาแล้วถึง 6 อัลบั้มกับ 10 ปีในวงการ กล่าวว่าเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่า Gangnam Style ซึ่งเป็นเพลงที่เขาแต่งเอง ร้องเอง และคิดท่าเต้นเองทั้งหมดจะฮิตไปทั่วโลกได้ขนาดนี้ ที่ผ่านมาเขาเป็นศิลปินที่แค่มีชื่อเสียงพอประมาณในเกาหลี และไม่มีฐานแฟนคลับในต่างประเทศเลย สิ่งเดียวที่เขานึกถึงขณะแต่งเพลงนี้คือการเพลงที่มีอารมณ์ขัน
Psy จะเดินทางไปพบกับ Scooter Braun ผู้จัดการส่วนตัวของ Justin Bieber อย่างไม่เป็นทางการในสัปดาห์นี้ หลังเขาทวีตถึงคลิปดังกล่าวว่า “ผมพลาดไม่จับคนนี้เซ็นสัญญาได้อย่างไร!?!?! Gangnam Style #THEGREATEST” ซึ่งมีข่าวลือว่า Braun อาจเจรจาขอลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงาน Psy ที่อเมริกานั่นเอง
PSY gangnam style 
6 วันก่อน อัปโหลด
ดาวน์โหลด (44.35 KB) PSY gangnam style
กังนัม สไตล์
PSY gangnam style 
กังนัม สไตล์
PSY gangnam style 
กังนัม สไตล์
PSY gangnam style 
กังนัม สไตล์

ส่วนคำว่า กังนัม สไตล์นั้น หลายเว็บได้อธิบายว่า กังนัม คือ คำแสลง เอาไว้เรียกคนที่มีรูปแบบการใช้ชีวิต สนุกสนานและชอบความเซ็กซี่ทุกรูปแบบ
สอนท่า Gang Nam style
สไตล์ ท่าเต้นสุดฮิต ของเกาหลี ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมสุดๆ ในเวลานี้ ที่สำคัญ ท่าเต้นกังนัม สไตล์ ตอนนี้ดังระดับโลกเเล้วด้วย
ขอขอบคุณ   http://webboard.edtguide.com/

10 เพลงสากลระดับโลก ที่นักฟังเพลงเทใจให้

10 เพลงสากล ระดับโลก ที่นักฟังเพลงเทใจให้ 

           เพลง F___ You โดย Cee Lo Green              เพลงแรก ชื่ออาจฟังดูไม่รื่นหูเสียเท่าไหร่ สำหรับเพลง F___ You ซึ่งรับประกันคุณภาพด้วยยอดผู้เข้าชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ใน Official Youtube ของพ่อหนุ่มผิวหมึกร่างใหญ่ชาวมะกันนามว่า Cee Lo Green กว่า 30 ล้านวิว เนื้อหาก็มีประมาณว่า หลังจากถูกหักอกในวัยเยาว์ หนุ่มน้อยก็เลยฝังใจแค้นสาวน้อยผมหยิกนัยน์ตาคมคนนั้น และทำตัวเป็นเสือผู้หญิงผู้ร่ำรวยเพื่อแก้แค้นให้หญิงสาวคนนั้นจำไปตลอดชีวิตว่า เธอได้เสียโอกาสทองไปแล้ว ต้องยกนิ้วให้ทั้งชื่อเพลงและเนื้อหา และทำนองเพลงแบบยุคซิกส์ตี้ที่ฟังแล้วน่าลุกขึ้นมาเต้นเสียจริง ๆ
เพลง Tightrope โดย Janelle Monáe                     มาถึงเพลงที่สอง เพลง Tightrope จากตัวแม่เพลงอาร์แอนด์บีของอเมริกาวัย 25 ปี Janelle Monáe สาวน้อยที่มาพร้อมกับทรงผมอันสุดแสนประหลาดที่เรียกกันว่าทรงแอฟโฟร ปอมปาดัวร์ ซึ่งในมิวสิควิดีโอนี้ สาวน้อย Monáe ได้โชว์ฝีเท้าไฟแล่บ แดนซ์สเต็ปเทพไหลลื่นแบบจับตัวยาก และเชื่อว่าขาแดนซ์ทั้งหลายหากได้ยินเพลงนี้แล้ว คงอยากลุกขึ้นมาขยับตามเธออย่างแน่นอน
เพลง Power โดย Kanye West               และเพลงที่ 3 เป็นเพลงของพ่อหนุ่ม Kanye West ในเพลง Power เพลงนี้เกิดจากแรงบันดาลใจของเขาในช่วงเก็บตัวกว่า 9 เดือน หลังมีข่าวฉาวเรื่องการหักหน้าแย่งไมค์จากสาว Taylor Swift ที่กำลังกล่าวขอบคุณที่ได้รับรางวัลบนเวที MTV Video Music Awards เนื่องจากพ่อหนุ่มเวสต์ ไม่เห็นด้วยกับการได้รางวัลของเธอ ซึ่งเพลงนี้ก็ไม่ทำให้แฟนเพลงทุกคนของเวสต์รู้สึกผิดหวัง หลังจากรอคอยมานาน ที่สำคัญคือ เวสต์ กลับมาร้องเพลงในสไตล์ที่เขาถนัดอย่าง บอมบาสติค แร็ป สมแล้วที่ เวสต์ ได้รับการขนานนามว่า "บุคลลที่รู้ว่าจะต้องทำดนตรีอย่างไร(ให้มัดใจคนฟัง)"
 เพลง Sprawl II (Mountains Beyond Mountains) โดย Arcade Fire            ส่วนเพลงที่ 4 ได้แก่ Sprawl II (Mountains Beyond Mountains) โดย วง Arcade Fire วงนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นวงที่มีความสามารถในการทำเพลงสดุดีต่าง ๆ โดยเนื้อหาในเพลงกล่าวถึงชีวิตในแถบชานเมือง ที่มีบ้านแบบเดียวกันเรียงกันเป็นแนว มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ทำให้คุณรู้สึกเฉยชากับการใช้ชีวิต เหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ โดยที่ไม่สามรถหนีออกไปจากเมืองนี้ได้เลย  เพลง Sprawl II เป็นเพลงที่เด็กวัยรุ่นชานเมืองหลาย ๆ คน ต้องลองฟัง และเชื่อว่าผู้ใหญ่หลาย ๆ คนหากได้ฟังเพลงนี้ คงได้นึกย้อนไปถึงอดีตวัยเยาว์ได้เช่นกัน
          เพลง Love the Way You Lie โดย Eminem featuring Rihanna                 สำหรับเพลงนี้ไม่พูดถึงก็ไม่ได้อีกเช่นกัน ก็เล่นรวมเอาคนดังหลายคนมาร่วมงานในเพลงนี้ อย่างตัวพ่อแร็ปเปอร์ผิวขาว เอมิเน็ม ซึ่งจับมือกับ ริฮานน่า นักร้องสาวผิวหมึกเสียงดี ผสมผสานกันระหว่างเสียงร้องแนวป๊อปบัลลาดอันโหยหวนของริฮานน่า กับเสียงแร็ปสุดห่ามของเอมิเน็ม ถ่ายทอดประสบการณ์รักอันน่าเจ็บปวดลงในเพลงนี้ แถมมิวสิควิดีโอเพลงนี้ ยังได้สุดยอดดาราดังสุดเซ็กซี่อย่าง เมแกน ฟ๊อกซ์ มาร่วมแสดงอีกต่างหาก แถมทั้งเพลงและมิวสิควิดีโอ ก็ได้มือดีหลายคนมาช่วยทำให้ จนกลายเป็นผลงานสุดเจ๋งของพ่อหนุ่มเอมิเน็มเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงโปรโมทของเพลงนี้ Love the Way You Lie ก็สามารถพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard ไปนั่งแท่นอยู่ที่อันดับ 1 อยู่หลายสัปดาห์เลย
    เพลง Ambling Alp โดย Yeasayer                  เพลงต่อไปที่จะกล่าวถึง คงถูกหูคนฟังแนวExperimental Rock เรากำลังจะพูดถึงเพลง Ambling Alp ของสามหนุ่มชาวนิวยอร์ควง Yeasayer ซึ่งในเนื้อเพลงกล่าวถึงนักมวยสามคนของอเมริกาในยุค 1930 ที่เป็นคู่ต่อสู้ห้ำหั่นกันมาตลอด แต่พวกเขากลับมาจับมือกันเพื่อต่อสู้กับระบบการปกครองแบบลัทธิฟาสซิสต์ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งเนื้อหาของเพลงบรรยยายเสียดิบดี ถือเป็นเพลงเด็ดของ Yeasayer อีกเพลงเลยทีเดียว
เพลง Animal Arithmetic โดย Jónsi                  Animal Arithmetic เป็นเพลงที่คุณฟังแล้ว คุณจะ รู้สึกเหมือนกำลังวิ่งลงเนินเขาลูกย่อม ๆ เจ้าของเพลงนี้มีนามว่า Jónsi นักร้องนำของวง Sigur Rós วงร็อคชื่อดังของนอร์เวย์ ด้วยซาวด์ง่าย ๆ แบบเอเชีย ที่เริ่มต้นด้วยดนตรีไทยอย่างขิม และทำนองที่ดูมีชีวิตชีวาทำให้เพลงนี้เป็นที่ติดหูได้อย่างไม่ยากเย็น ถ้าอยากรู้ว่าเจ๋งแค่ไหน ต้องลองฟังดูน่ะค่ะ
เพลง Find Your Love โดย Drake              เพลง Find Your Love เป็นซิงเกิ้ลที่ 2 ของ Drake นักร้องฮิปฮอปหน้าใหม่ชาวแคนาดา จากอัลบั้มเดบิวท์ขายดีที่สุด "Thank Me Later" ซึ่งเนื้อหาของเพลงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก ซึ่งต่างจากเพลงฮิปฮอปอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยจะพูดถึงเรื่องความรักเสียเท่าไรนัก
   เพลง All the Time โดย Elizabeth Cook              All the Time เพลงแนวคันทรี่ย้อนยุคจาก Elizabeth Cook ท่ามกลางกระแสเพลงสมัยใหม่ ด้วยเสียงแหลมสูงของ Elizabeth Cook ซึ่งเข้ากับเพลงแนวนี้มาก ๆ และลูกเล่นในการร้องเพลงคันทรี่ในแบบที่ไม่สามารถหาได้จาก Nanci Griffith หรือ Taylor Swift ได้อย่างแน่นอน ทำให้เพลงนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักฟังเพลงจำนวนมาก
  เพลง Rill Rill โดย Sleigh Bells                  เดินทางมาถึงเพลงยอดนิยมเพลงสุดท้ายแล้ว ขอจบลงด้วยเพลง Rill Rill จาก Sleigh Bells ถือเป็นเพลงที่ฟังง่ายเพลงหนึ่งของวง Sleigh Bells (ซึ่งปกติพวกเขาจะร้องเพลงแนวตะโกนโก่งคอร้อง) เริ่มต้นเพลงด้วยดนตรีแนวชวนฝันแบบวัยรุ่นมัธยม  
ขอขอบคุณ    http://musicstation.kapook.com